Recommend

Recent Posts

IMAGE February 2014

IMAGE Magazine vol.27 no.2 February 2014 METAPHORIC Model ญาดา วิลลาเรจ, พิติ ชินสำราญ & ณัฐกฤต เกษตรภิบาล Stylist Benyada Pruedihinalin Photographer Punsiri

แพรว 827 : สินจัย เปล่งพานิช & ฉัตรชัย เปล่งพานิช

แพรว Praew Magazine vol. 35 no. 827 February 2014 ‘ธงชาติ’ และเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ ของความเป็นไทย เราจึงยืนตรงเคารพธงชาติ เพื่อความเป็นเอกราชของบรรพบุรุษไทย Model สินจัย เปล่งพานิช และ ฉัตรชัย

ไอ้ท่อก

ไอ้ท่อก

คมเพชร หนวดเค็ม

นักเรียนมอหกรุ่นผมทุกคนมีฉายา บ้างก็น่าชัง บ้างก็น่ารัก บ้างก็น่าทุเรศ

ไอ้ที่ฟังน่าเกรงขาม มีทั้ง “ขุนพลวัดโพธิ์” “ทาร์ซานวัดไทร” และ “เจ้าพ่อวัดเพชร”

แต่ฉายาที่แปลกกว่าเพื่อน คือ “ไอ้ท่อก-วัดท่าทาง” ไอ้ท่อกไม่ได้อยู่วัดท่าทาง” วัดนี้เป็นที่ตั้งของป่าช้า มันได้รับสมญาอันน่ากลัวเพราะมันเกือบจะกลายเป็นศพ…

ไอ้ท่อกมาจากครอบครัวที่ค่อนข้างจะขาดแคลน จบมอสามจากบ้านนอก ก็ตะเกียกตะกายเข้ามาอยู่วัดในเมือง… แลวมิหนำยังหาค่าเล่าเรียนเองเสียด้วย พ่อแม่มันเองก็ยังงงงันว่ามันทําได้ด้วยวิธีใด เพราะพี่ ๆ ของมันหกเจ็ดคนไม่มีปัญญาได้เรียนเกินปอสี่

ไอ้ท่อกขโมยดะ…ไม่ว่าสมบัติของวัด ของชาวบ้านหรือของเทศบาล

บุหรี่ที่อุบาสกอุบาสิกาซื้อจากร้านริมประตูวัดเอามาถวายพระที่ละห่อสองห่อ ไอ้ท่อกขโมยกลับเอาไปขายที่ร้านเดิม…ด้วยราคาที่ถูกกว่าครึ่งหนึ่ง

ถังยางมะตอยของเทศบาล… ไอ้ท่อกแอบไปแบกเอามาขายให้พวกวงดนตรีบ้าง คณะโนราบ้าง…เวทีที่พวกนั้นแสดงกันถ้ามุดลงไปดูถังยางมะตอยที่รองรับพื้นกระดานอยู่จะเห็นตราของเทศบาลติดหราอยู่หลายใบ (และอาจจะมีลายนิ้วมือของไอ้ท่อกติดอยู่ด้วย)

แต่ธุรกิจที่ทําเงินให้ไอ้ท่อกอย่างเป็นล่ำเป็นสัน คือการจัดหาทุกสิ่งทุกอย่างให้เพื่อนนักเรียนด้วยกัน ไม่ว่าสมุด ดินสอปากกา ใครขาดแคลนสิ่งใดมากระซิบบอกไอ้ท่อกเถอะ มันจะจัดหามาให้ได้… แต่อย่าถามก็แล้วกันว่าไอ้ท่อกไปเอามาจากไหน

แม้แต่หนังสือลามกประกอบภาพที่หาซื้อยากแสนยาก ถ้าใครอยากได้ไว้เป็นเพื่อนยามเข้าห้องน้ําไปติดต่อได้ท่อก แล้วไม่ค่อยผิดหวัง…เป็นกันเองเสียด้วย

คราวใดที่โรงเรียนเรายกทีมกีฬาไปแข่งกับโรงเรียนอื่น แล้วกระดิ่งจักรยานของนักเรียนที่นั่นถูกถอดไปเป็นแถวๆ เราก็ต้องเดาเอาว่าเป็นฝีมือไอ้ท่อก

ถ้าครูพละโวยวายว่าลูกบาสเก็ตบอลหายไปสี่ห้าลูก.. เราก็เชื่อว่าต้องเป็นไอ้ท่อก

ไอ้ท่อกรับบริการทุกอย่างอันจะให้ได้มาซึ่งเงิน

มันเคยร่วมทีมกับช่างเขียนรูปหน้าโรงหนัง…ทําการบ้านวิชาวาดเขียนให้นักเรียนมอสี่ทั้งชั้น แบ่งให้ช่างสิบบาท ไม่รู้ว่ามันโขกเด็กพวกนั้นมาเท่าไหร่

แต่เหตุการณ์ที่ทําเอาไอ้ท่อกต้องกลายเป็น “ไอ้ท่อก-วัดท่าทาง” บังเกิดขึ้นก็เมื่อตอนที่ไอ้ท่อกเปิดบริการทางเพศ

สมัยนั้นพวกเราซึ่งกำลังแตกเนื้อหนุ่ม และดวงจิตกําลังแปรปรวนด้วยกามฤทธิ์อันร้อนรุ่ม มักจะใช้เวลายามรัตติกาลทัศนาสาว ๆ อยู่หน้าโรงหนัง โรงรําวง หรือไม่ก็ด้อม ๆ มอง ๆ อยู่ตามหน้าซ่อง (ไม่มีเงินจะเข้าไปข้างในหรอก เพียงแค่ได้เห็นโฉมของประดาจอมงามประจําสำนักสักวูบสองวูบมันก็ซู่ซ่ากำซาบซ่านในฤทัย กลับไปนอนฝันได้อย่างเอร็ดอร่อยทั้งคืน)

ไอ้ท่อกรู้ความวิปริตในหัวใจของพวกเราดี มันคงมองหาช่องจะทําเงินด้วยวิธีนี้อยู่นานนักหนาแล้ว

“พวกมึงอยากขึ้นครู…แต่ไม่มีเงินยี่สิบบาทใช่ไหมวะ” ไอ้ท่อกเรียกพวกเราห้าหกคนที่ชอบเดินป้วนเปี้ยนอยู่หน้าซ่องมาประชุมกันหลังส้วม

ทุกคนพยักหน้าหงึกหงัก ไอ้ท่อกยิ้มพรายพลางกวาดตาไปรอบ ๆ

“อยากขึ้นครู …ก็ต้องเสียค่ายกครู” ไอ้ท่อกพูดเสียงเข้ม “ถ้ากูสามารถหาบริการให้พวกมึงได้ด้วยอัตราเพียงคนละห้าบาท…มึงจะตะครุบหรือไม่”

“เอาซีวะ…” ไอ้คลิ้งโพล่งออกมาก่อนเพื่อน “กูเอาแน่ ๆ … แต่มึงจะหาผู้หญิงที่ไหนวะ คงไม่ให้พวกเราดูรูปโป๊แล้วจินตนาการเอาเองเหมือนคราวก่อนนะโว้ย”

“คราวนั้นกูคิดเพียงห้าสิบตังค์…แต่คราวนี้กูคิดห้าบาทมึงต้องได้สัมผัสของจริงแน่ ๆ” ไอ้ท่อกยืนยัน

“อีตัวที่ไหนวะ ค่าตัวถูกพรรค์นั้น” ไอ้คลิ้งซักต่อ

“ไม่ใช่อีตัว เธอเป็นผู้หญิงกรีดยางชื่อเล็ก…”

พี่เล็กอยู่บ้านนอกละแวกเดียวกับบ้านไอ้ท่อก อายุแก่กว่าไอ้ท่อกและพวกเราห้าหกปี เมื่อสี่ปีก่อน … เด็กชายท่อกซึ่งอายุเพียงสิบสองขวบเคยได้ยินเด็กหนุ่มในหมู่บ้านเล่ากันบ่อย ๆ ว่าเคย ถูกพี่เล็กปลุกปล้ำเอากลางทุ่ง แต่ไม่เคยรู้ว่าการข่มขืนคืออะไร

เพิ่งมาเจอด้วยตัวเองก็ตอนที่พี่เล็กชวนไปจับปูนา พอถึงขนำกลางนา…สาวเจ้าก็ชวนไอ้ท่อกก้าวขึ้นบนขนำ กระตุกผ้าเตี่ยวที่ไอ้ท่อกนุ่งดังผาง แล้วไอ้ท่อกก็สูญเสียพรหมจรรย์

ตั้งแต่นั้นมา…เวลาพี่เล็กชวนไปจับปูนา ไอ้ท่อกไม่เคยรอรี วิ่งจี๋นำหน้าไปเลย

พี่เล็กเป็นโรคจิตทางเพศบางอย่าง ผู้ชายกี่คน ๆ ก็ไม่สามารถบําบัดความต้องการของเธอได้ บุรุษในหมู่บ้านตั้งแต่เด็กที่ยังไม่ประสีประสาอย่างไอ้ท่อก จนถึงผู้เฒ่าที่เจียนคลานลงโลง ถูกนอสอเล็กปลุกปล้ำทําผัวเสียแล้วเกือบทุกคน

จนในที่สุดเฒ่าสุกผู้เป็นพ่อทนอับอายชาวบ้านไม่ไหว ถอนเสาเรือนหลบหนีไปรับจ้างเฝ้าสวนยางอยู่กลางป่าห้าหกกิโลจากหมู่บ้าน พี่เล็กจะไปก่อความวุ่นวายกับคนงานกรีดยางบ้างหรือไม่.. ไอ้ท่อกก็ไม่ได้ข่าว

ไอ้ท่อกเกือบลืมพี่เล็ก เพราะแม่สาวก็ไปอยู่เสียไกล ตัวไอ้ท่อกเองก็มาเรียนหนังสือเสียที่สงขลา ได้พบผู้หญิงหน้าตาแฉล้มมากเข้า จนแม่สาวเอวบางร่างยักษ์ที่ชื่อเล็กเริ่มเลือนไปจากความทรงจํา

แต่แล้ว…เมื่อคราวที่ไอ้ท่อกกลับไปเยี่ยมบ้านนอกครั้งล่าสุด มันมีโอกาสแวะไปธุระที่บ้านตาสุกกลางสวนยาง แล้วพบว่า…พี่เล็กคนนั้นยังเหมือนเดิม

ชั่วโมงแรกที่พี่เล็กเจอไอ้ท่อก… ไอ้ท่อกก็ถูกปล้ำ

“พี่เล็กคงจะเป็นหมัน เพราะใช้ชีวิตแบบนี้มาหลายปีก็ไม่เคยมีท้อง” ไอ้ท่อกกล่าวสรุป “เอาเป็นว่าพี่เล็กยังเหมือนเดิม…และแกตกลงว่าถ้าพวกมึงไปเยี่ยมจะต้อนรับขับสู้อย่างดีทุกคน คืนวันเสาร์นี้ตาสุกพ่อพี่เล็กไม่อยู่บ้าน แกไปเล่นไพ่ที่บ้านเถ้าแก่ บ้านทั้งหลังจะเป็นวิมานของพวกมึง”

“นี่ห้าบาทของกู… มึงเอาไปล่วงหน้าเลย” นั่นคือเสียงของไอ้ชิน เด็กขี้อายที่สุดในชั้น

พี่เล็กไม่ได้เล็กเหมือนชื่อ!

รูปร่างของแม่นางสูงใหญ่เหมือนผู้ชาย ผิวคล้ำจนเกือบดํา ช่วงแขนช่วงขาแฝงพลังอย่างมหาศาล และประกายตาของเธอฉายแววแห่งความปรารถนาที่ไม่รู้จักเหือด แม้แต่เด็กหนุ่มไฟแรงอย่างพวกเรายังไม่อาจจะรับไหว

ถ้านี่คือการขึ้นครู…เราก็ได้เจอครูชั้นปรมาจารย์เข้าแล้ว

ฟ้าสาง…

“ไอ้ท่อก…ไอ้ท่อก” ผมตบประตูห้องพี่เล็กผาง ๆ ไอ้ท่อกยังอยู่ในห้องนั้น มันเข้าไปในห้องพี่เล็กเป็นคนสุดท้ายตอนตีหนึ่งและยังไม่ออกมาเลย

เสียงกุกๆ กักๆ ดังมาจากข้างใน

“พี่เล็กยังหลับอยู่ในห้อง” ไอ้ท่อกบอกขณะก้าวออกมารูดซิปกางเกงหน้าห้อง “แต่เราคงไม่มีเวลาร่ำลาเสียแล้ว กลับกันเถอะ”

เรากระโดดผลุงตามหลังไอ้ท่อกตรงไปที่กระไดเรือนโดยไม่รอรี แต่ไอ้ท่อกเหยียบกระไดขั้นแรกก็ชะงักตีนกึก พวกเราที่ไล่หลังมาหน้าซีดไปตาม ๆ กัน

เฒ่าสุกเจ้าของบ้านกําลังก้าวอาด ๆ ขึ้นกระไดมาพอดี !

เราสบตากับแกอย่างที่สีหน้าไม่ถูก ตาสุกกราดสายตามองพวกเราทีละคนด้วยดวงตาขุ่นขวาง…แต่ไม่พูดว่าอะไร คงจะเจอเหตุการณ์ทํานองนี้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน

ตาเฒ่าผละจากเราไป..มุ่งตรงไปที่ห้องพี่เล็ก ไอ้ท่อกพยักพะเยิดให้เรารีบเผ่น

เราเข็นจักรยานสามสี่คันออกจากบริเวณใต้ถุน เตรียมตัวจะบึ่งออกจากป่ายาง

แต่ไอ้ท่อกเกิดปวดท้องเยี่ยวขึ้นมาในบัดดล บอกให้พวกเรารอสักครู่ แล้วเผ่นโผนตรงไปที่โคนมะขามข้างกระไดเรือน เริ่มสําแดงเดชตรงนั้น

“ฉับ!”

ไอ้ท่อกสะดุ้งเฮือก ขวานเล่มมหึมาลอยมาปักฉึกอยู่กับต้นมะขามข้างใบหูของมัน

เฒ่าสุกยืนจังก้าอยู่บนกระไดเรือน

ไอ้ท่อกยืนมือสั่น ปากสั่น เยี่ยวขาดเม็ดในฉับพลัน ขวานเล่มนั้นเฉียดหัวมันไปเพียงไม่กี่เซ็นติเมตร

“ไอ้ท่อก… ไอ้สัตว์ มาเอาเงินของมึงคืนไป” ตาสุกขยำธนบัตรสองสามใบในมือเป็นก้อนกลม แล้วเหวี่ยงตุ้บลงข้าง ๆ โอ่งน้ําตรงตีนกระได “อีเล็กจะไปทําอะไรกับใครกูเลิกคิดเสียแล้ว…แต่อย่าตบหน้ากูด้วยเงิน มึงตีค่าลูกกูเหมือนกะหรี่”

แกเริ่มชี้นิ้วกราดมาที่พวกเราทุกคน “พวกมึงก็เหมือนกันอย่าให้กูเห็นอีก คราวหน้าถึงอาจเป็นผีเฝ้าป่ายาง ไปเสียให้พ้นๆ”

เราปั่นจักรยานออกจากที่นั่นอย่างเร็วจี๋เหมือนโดนผีฉุดขา น้ําหนักตัวของไอ้คลิ้งที่ซ้อนท้ายจักรยานผมกลับเบาโหวงอย่างปาฏิหาริย์…

“เฮ้ย…ไอ้ท่อก” ไอ้ชินโพล่งออกมากลางทางเหมือนจะฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้ “มึงเก็บเงินจากพวกเราเพียงคนละห้าบาท แต่เงินที่ตาสุกเอามาขว้างใส่ถึงมันใบแดง ๆ นี่หว่า” …

“เออ…จริง” ไอ้เก็บฉุกคิดขึ้นมาได้อีกคน “กูก็เห็นใบแดง ๆ ด้วย”

“มันใบแดงจริง ๆ อย่างที่พวกมึงเห็น…เพราะนั่นไม่ใช่เงินของพวกมึง” ไอ้ท่อกพูดยิ้ม ๆ “คนอย่างพี่เล็กไม่เคยเรียกร้องอะไรจากใครเป็นค่าตอบแทน มันเป็นความเต็มใจของเธอเอง เงินของพวกมึงกูเอาเข้ากระเป๋ากูเองทั้งหมด”

“แล้วไอ้ใบแดงนั้นมาจากไหน…กูชักงงชิบหาย” ไอ้ชินพูดฉุน ๆ

“ไอ้เฒ่าสุกเคยขโมยไก่พ่อกูเมื่อหลายปีก่อน… กูคิดจะล้างแค้นอยู่แล้ว เมื่อคืนเลยได้โอกาส” ไอ้ท่อกอธิบายขณะยังปั่นจักรยานเร็วปรื๋อ “กูค้นไปค้นมา… จนเจอเงินที่มันซ่อนไว้ใต้หิ้งพระสามร้อย กูคว้าซะเรียบ.. แต่ดันเอาไปทําตกไว้บนที่นอนพี่เล็ก ไอ้เฒ่านั่นก็เสือกเอามาคืนกูอีกจนได้…บ้าชัด ๆ !”

คมเพชร หนวดเค็ม - ไอ้ท่อก

หนังสือต่วย'ตูน เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๒๖ ปีที่ ๑๒ เล่มที่ ๖

Share:

Facebook
Twitter
Pinterest
LinkedIn

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Photobook

Highlight

Back Issues

On Key

Related Posts

หมาเจ้าเมือง

หมาเจ้าเมือง ร.ต.พิมล สุวรรณสุภา อันว่าบุญวาสนาของสัตว์โลก ทั้งผองจะเจริญขึ้นหรือเสื่อมลงนั้น ย่อมเป็นไปตามกฎแห่งกรรมของตนเองทั้งสิ้น ก่อกรรมใดที่ไม่ถูก กาลเทศะ, โลภโมโทสัน หรือเหิมเกริมจนลืมตนก็จะเป็นเหตุปัจจัยฉุดรั้งให้ต่ำลง แทนที่จะช่วยดึงให้สูงขึ้น สัจธรรมข้อนี้ผมได้มาจากชีวิตของ

จากน้ํามันถึงปลาทู

จากน้ํามันถึงปลาทู ยุติพงษ์ ตั้ง เมื่อพูดถึงการค้าระดับประเทศรอบ ๆ มหาสมุทรแปซิฟิกใต้ หรือนัยหนึ่งการตั้งตัวเป็นนายหน้าให้สินค้าผ่านมือไปสู่ประเทศคู่ขา ใครไม่รู้จักสิงคโปร์ก็บ้าแล้ว เมื่อสวัสดีกับเมืองโชนันในอดีตแล้ว ก็น่าจะเลยไปสัมผัสมือกับโก๊ะจกตง ทายาทมือระดับพระกาฬของลีกวนยิวไว้หน่อยก็จะดี อย่างน้อยก็ในฐานะของผู้สืบสายเลือดคนแรกที่ได้รับการถ่ายทอดวิทยายุทธ์ในสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์อย่างครบถ้วนทุกกระบวนท่า

รบกับเจ็ก

รบกับเจ็ก ประสงค์ บานชื่น ทางสื่อมวลชน เช่นวิทยุ โทรทัศน์ (เอ๊ย, ยังไม่มี) และหนังสือพิมพ์ ว่า “เชื่อผู้นําชาติพ้นภัย” “มาลานําไทยสู่มหาอํานาจ”

มวยแขก

ชุดแขกอมยิ้ม มวยแขก ชัยชนะ โพธิวาระ คุยกับแขกไม่ว่าเรื่องใดก็ตามอาบังแกต้องมีเรื่องมาเกทับคู่สนทนาอยู่เสมอ เช่นคุยถึงเรื่องรถแขกเขาต้องบอกว่ารถที่ผลิตในอินเดียแข็งแกร่งที่สุด รูปร่างที่สวยงาม แถมชื่อยังไพเราะซะด้วยคือยี่ห่อแอมบาสดอร์ ยิ่งมอเตอร์ไซค์ยิ่งชื่อเพราะใหญ่คือยี่ห้อ YEZDEE ถ้าคุยถึงเรื่องพระเจ้าบังแกก็จะคุยจนน้ําลายฟูมปากอีกนะแหละว่าอินเดียเป็นดินแดนของพระเจ้าและมีพระเจ้าอยู่ที่นี่มากที่สุด เรียกว่าคุยเรื่องไหนมาแขกเป็นคุยทับไปได้อย่างสบาย

“โอฬาร” – หนังสือหัวเตียง

หนังสือหัวเตียง “โอฬาร” เมื่อเดือนก่อนมีนักเขียนชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งแวะมาหาผมที่สํานักงาน “สตูดิโอ เท็น” ถนนอรรถการประสิทธิ์ ตอนนั้นสิบโมงเช้าแล้ว ผมกําลังนั่งดูเพื่อนฝูงเขาตัดต่อภาพยนตร์สารคดีท่องเที่ยว ชุด “ชีพจรลงเท้า” อยู่ นักเขียนชาวฝรั่งเศสผู้นั้นยังหนุ่มอยู่

ยาหมอเยิ้ม

ยาหมอเยิ้ม บุญยู้ ภูพาน ป่าที่พวกเราไปตัดทางสายใหม่ผ่านนั้น ล้วนแต่ภูเขาสูงชันติดกันเป็นพืด อุดมสมบูรณ์ด้วยไม้สักต้นกําลังเหมาะ ที่จะผลิตเป็นไม้เถื่อนได้อย่างสบาย ทั้งสักทอง, สักขี้เป็ด เขียวชะอุ่มในหน้าฝนและโกร๋นใบในหน้าแล้ง เซอร์เวย์เป็นชุดแรกที่บุกป่าเข้าไปสํารวจแนวก่อสร้างตามแบบ หน่วยเคลียริ่งตามเข้าไปถางป่าออกก่อนที่แทรกเตอร์จะเข้าไปขุดตอ