ไอ้ท่อก
คมเพชร หนวดเค็ม
นักเรียนมอหกรุ่นผมทุกคนมีฉายา บ้างก็น่าชัง บ้างก็น่ารัก บ้างก็น่าทุเรศ
ไอ้ที่ฟังน่าเกรงขาม มีทั้ง “ขุนพลวัดโพธิ์” “ทาร์ซานวัดไทร” และ “เจ้าพ่อวัดเพชร”
แต่ฉายาที่แปลกกว่าเพื่อน คือ “ไอ้ท่อก-วัดท่าทาง” ไอ้ท่อกไม่ได้อยู่วัดท่าทาง” วัดนี้เป็นที่ตั้งของป่าช้า มันได้รับสมญาอันน่ากลัวเพราะมันเกือบจะกลายเป็นศพ…
ไอ้ท่อกมาจากครอบครัวที่ค่อนข้างจะขาดแคลน จบมอสามจากบ้านนอก ก็ตะเกียกตะกายเข้ามาอยู่วัดในเมือง… แลวมิหนำยังหาค่าเล่าเรียนเองเสียด้วย พ่อแม่มันเองก็ยังงงงันว่ามันทําได้ด้วยวิธีใด เพราะพี่ ๆ ของมันหกเจ็ดคนไม่มีปัญญาได้เรียนเกินปอสี่
ไอ้ท่อกขโมยดะ…ไม่ว่าสมบัติของวัด ของชาวบ้านหรือของเทศบาล
บุหรี่ที่อุบาสกอุบาสิกาซื้อจากร้านริมประตูวัดเอามาถวายพระที่ละห่อสองห่อ ไอ้ท่อกขโมยกลับเอาไปขายที่ร้านเดิม…ด้วยราคาที่ถูกกว่าครึ่งหนึ่ง
ถังยางมะตอยของเทศบาล… ไอ้ท่อกแอบไปแบกเอามาขายให้พวกวงดนตรีบ้าง คณะโนราบ้าง…เวทีที่พวกนั้นแสดงกันถ้ามุดลงไปดูถังยางมะตอยที่รองรับพื้นกระดานอยู่จะเห็นตราของเทศบาลติดหราอยู่หลายใบ (และอาจจะมีลายนิ้วมือของไอ้ท่อกติดอยู่ด้วย)
แต่ธุรกิจที่ทําเงินให้ไอ้ท่อกอย่างเป็นล่ำเป็นสัน คือการจัดหาทุกสิ่งทุกอย่างให้เพื่อนนักเรียนด้วยกัน ไม่ว่าสมุด ดินสอปากกา ใครขาดแคลนสิ่งใดมากระซิบบอกไอ้ท่อกเถอะ มันจะจัดหามาให้ได้… แต่อย่าถามก็แล้วกันว่าไอ้ท่อกไปเอามาจากไหน
แม้แต่หนังสือลามกประกอบภาพที่หาซื้อยากแสนยาก ถ้าใครอยากได้ไว้เป็นเพื่อนยามเข้าห้องน้ําไปติดต่อได้ท่อก แล้วไม่ค่อยผิดหวัง…เป็นกันเองเสียด้วย
คราวใดที่โรงเรียนเรายกทีมกีฬาไปแข่งกับโรงเรียนอื่น แล้วกระดิ่งจักรยานของนักเรียนที่นั่นถูกถอดไปเป็นแถวๆ เราก็ต้องเดาเอาว่าเป็นฝีมือไอ้ท่อก
ถ้าครูพละโวยวายว่าลูกบาสเก็ตบอลหายไปสี่ห้าลูก.. เราก็เชื่อว่าต้องเป็นไอ้ท่อก
ไอ้ท่อกรับบริการทุกอย่างอันจะให้ได้มาซึ่งเงิน
มันเคยร่วมทีมกับช่างเขียนรูปหน้าโรงหนัง…ทําการบ้านวิชาวาดเขียนให้นักเรียนมอสี่ทั้งชั้น แบ่งให้ช่างสิบบาท ไม่รู้ว่ามันโขกเด็กพวกนั้นมาเท่าไหร่
แต่เหตุการณ์ที่ทําเอาไอ้ท่อกต้องกลายเป็น “ไอ้ท่อก-วัดท่าทาง” บังเกิดขึ้นก็เมื่อตอนที่ไอ้ท่อกเปิดบริการทางเพศ
สมัยนั้นพวกเราซึ่งกำลังแตกเนื้อหนุ่ม และดวงจิตกําลังแปรปรวนด้วยกามฤทธิ์อันร้อนรุ่ม มักจะใช้เวลายามรัตติกาลทัศนาสาว ๆ อยู่หน้าโรงหนัง โรงรําวง หรือไม่ก็ด้อม ๆ มอง ๆ อยู่ตามหน้าซ่อง (ไม่มีเงินจะเข้าไปข้างในหรอก เพียงแค่ได้เห็นโฉมของประดาจอมงามประจําสำนักสักวูบสองวูบมันก็ซู่ซ่ากำซาบซ่านในฤทัย กลับไปนอนฝันได้อย่างเอร็ดอร่อยทั้งคืน)
ไอ้ท่อกรู้ความวิปริตในหัวใจของพวกเราดี มันคงมองหาช่องจะทําเงินด้วยวิธีนี้อยู่นานนักหนาแล้ว
“พวกมึงอยากขึ้นครู…แต่ไม่มีเงินยี่สิบบาทใช่ไหมวะ” ไอ้ท่อกเรียกพวกเราห้าหกคนที่ชอบเดินป้วนเปี้ยนอยู่หน้าซ่องมาประชุมกันหลังส้วม
ทุกคนพยักหน้าหงึกหงัก ไอ้ท่อกยิ้มพรายพลางกวาดตาไปรอบ ๆ
“อยากขึ้นครู …ก็ต้องเสียค่ายกครู” ไอ้ท่อกพูดเสียงเข้ม “ถ้ากูสามารถหาบริการให้พวกมึงได้ด้วยอัตราเพียงคนละห้าบาท…มึงจะตะครุบหรือไม่”
“เอาซีวะ…” ไอ้คลิ้งโพล่งออกมาก่อนเพื่อน “กูเอาแน่ ๆ … แต่มึงจะหาผู้หญิงที่ไหนวะ คงไม่ให้พวกเราดูรูปโป๊แล้วจินตนาการเอาเองเหมือนคราวก่อนนะโว้ย”
“คราวนั้นกูคิดเพียงห้าสิบตังค์…แต่คราวนี้กูคิดห้าบาทมึงต้องได้สัมผัสของจริงแน่ ๆ” ไอ้ท่อกยืนยัน
“อีตัวที่ไหนวะ ค่าตัวถูกพรรค์นั้น” ไอ้คลิ้งซักต่อ
“ไม่ใช่อีตัว เธอเป็นผู้หญิงกรีดยางชื่อเล็ก…”
พี่เล็กอยู่บ้านนอกละแวกเดียวกับบ้านไอ้ท่อก อายุแก่กว่าไอ้ท่อกและพวกเราห้าหกปี เมื่อสี่ปีก่อน … เด็กชายท่อกซึ่งอายุเพียงสิบสองขวบเคยได้ยินเด็กหนุ่มในหมู่บ้านเล่ากันบ่อย ๆ ว่าเคย ถูกพี่เล็กปลุกปล้ำเอากลางทุ่ง แต่ไม่เคยรู้ว่าการข่มขืนคืออะไร
เพิ่งมาเจอด้วยตัวเองก็ตอนที่พี่เล็กชวนไปจับปูนา พอถึงขนำกลางนา…สาวเจ้าก็ชวนไอ้ท่อกก้าวขึ้นบนขนำ กระตุกผ้าเตี่ยวที่ไอ้ท่อกนุ่งดังผาง แล้วไอ้ท่อกก็สูญเสียพรหมจรรย์
ตั้งแต่นั้นมา…เวลาพี่เล็กชวนไปจับปูนา ไอ้ท่อกไม่เคยรอรี วิ่งจี๋นำหน้าไปเลย
พี่เล็กเป็นโรคจิตทางเพศบางอย่าง ผู้ชายกี่คน ๆ ก็ไม่สามารถบําบัดความต้องการของเธอได้ บุรุษในหมู่บ้านตั้งแต่เด็กที่ยังไม่ประสีประสาอย่างไอ้ท่อก จนถึงผู้เฒ่าที่เจียนคลานลงโลง ถูกนอสอเล็กปลุกปล้ำทําผัวเสียแล้วเกือบทุกคน
จนในที่สุดเฒ่าสุกผู้เป็นพ่อทนอับอายชาวบ้านไม่ไหว ถอนเสาเรือนหลบหนีไปรับจ้างเฝ้าสวนยางอยู่กลางป่าห้าหกกิโลจากหมู่บ้าน พี่เล็กจะไปก่อความวุ่นวายกับคนงานกรีดยางบ้างหรือไม่.. ไอ้ท่อกก็ไม่ได้ข่าว
ไอ้ท่อกเกือบลืมพี่เล็ก เพราะแม่สาวก็ไปอยู่เสียไกล ตัวไอ้ท่อกเองก็มาเรียนหนังสือเสียที่สงขลา ได้พบผู้หญิงหน้าตาแฉล้มมากเข้า จนแม่สาวเอวบางร่างยักษ์ที่ชื่อเล็กเริ่มเลือนไปจากความทรงจํา
แต่แล้ว…เมื่อคราวที่ไอ้ท่อกกลับไปเยี่ยมบ้านนอกครั้งล่าสุด มันมีโอกาสแวะไปธุระที่บ้านตาสุกกลางสวนยาง แล้วพบว่า…พี่เล็กคนนั้นยังเหมือนเดิม
ชั่วโมงแรกที่พี่เล็กเจอไอ้ท่อก… ไอ้ท่อกก็ถูกปล้ำ
“พี่เล็กคงจะเป็นหมัน เพราะใช้ชีวิตแบบนี้มาหลายปีก็ไม่เคยมีท้อง” ไอ้ท่อกกล่าวสรุป “เอาเป็นว่าพี่เล็กยังเหมือนเดิม…และแกตกลงว่าถ้าพวกมึงไปเยี่ยมจะต้อนรับขับสู้อย่างดีทุกคน คืนวันเสาร์นี้ตาสุกพ่อพี่เล็กไม่อยู่บ้าน แกไปเล่นไพ่ที่บ้านเถ้าแก่ บ้านทั้งหลังจะเป็นวิมานของพวกมึง”
“นี่ห้าบาทของกู… มึงเอาไปล่วงหน้าเลย” นั่นคือเสียงของไอ้ชิน เด็กขี้อายที่สุดในชั้น
พี่เล็กไม่ได้เล็กเหมือนชื่อ!
รูปร่างของแม่นางสูงใหญ่เหมือนผู้ชาย ผิวคล้ำจนเกือบดํา ช่วงแขนช่วงขาแฝงพลังอย่างมหาศาล และประกายตาของเธอฉายแววแห่งความปรารถนาที่ไม่รู้จักเหือด แม้แต่เด็กหนุ่มไฟแรงอย่างพวกเรายังไม่อาจจะรับไหว
ถ้านี่คือการขึ้นครู…เราก็ได้เจอครูชั้นปรมาจารย์เข้าแล้ว
ฟ้าสาง…
“ไอ้ท่อก…ไอ้ท่อก” ผมตบประตูห้องพี่เล็กผาง ๆ ไอ้ท่อกยังอยู่ในห้องนั้น มันเข้าไปในห้องพี่เล็กเป็นคนสุดท้ายตอนตีหนึ่งและยังไม่ออกมาเลย
เสียงกุกๆ กักๆ ดังมาจากข้างใน
“พี่เล็กยังหลับอยู่ในห้อง” ไอ้ท่อกบอกขณะก้าวออกมารูดซิปกางเกงหน้าห้อง “แต่เราคงไม่มีเวลาร่ำลาเสียแล้ว กลับกันเถอะ”
เรากระโดดผลุงตามหลังไอ้ท่อกตรงไปที่กระไดเรือนโดยไม่รอรี แต่ไอ้ท่อกเหยียบกระไดขั้นแรกก็ชะงักตีนกึก พวกเราที่ไล่หลังมาหน้าซีดไปตาม ๆ กัน
เฒ่าสุกเจ้าของบ้านกําลังก้าวอาด ๆ ขึ้นกระไดมาพอดี !
เราสบตากับแกอย่างที่สีหน้าไม่ถูก ตาสุกกราดสายตามองพวกเราทีละคนด้วยดวงตาขุ่นขวาง…แต่ไม่พูดว่าอะไร คงจะเจอเหตุการณ์ทํานองนี้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
ตาเฒ่าผละจากเราไป..มุ่งตรงไปที่ห้องพี่เล็ก ไอ้ท่อกพยักพะเยิดให้เรารีบเผ่น
เราเข็นจักรยานสามสี่คันออกจากบริเวณใต้ถุน เตรียมตัวจะบึ่งออกจากป่ายาง
แต่ไอ้ท่อกเกิดปวดท้องเยี่ยวขึ้นมาในบัดดล บอกให้พวกเรารอสักครู่ แล้วเผ่นโผนตรงไปที่โคนมะขามข้างกระไดเรือน เริ่มสําแดงเดชตรงนั้น
“ฉับ!”
ไอ้ท่อกสะดุ้งเฮือก ขวานเล่มมหึมาลอยมาปักฉึกอยู่กับต้นมะขามข้างใบหูของมัน
เฒ่าสุกยืนจังก้าอยู่บนกระไดเรือน
ไอ้ท่อกยืนมือสั่น ปากสั่น เยี่ยวขาดเม็ดในฉับพลัน ขวานเล่มนั้นเฉียดหัวมันไปเพียงไม่กี่เซ็นติเมตร
“ไอ้ท่อก… ไอ้สัตว์ มาเอาเงินของมึงคืนไป” ตาสุกขยำธนบัตรสองสามใบในมือเป็นก้อนกลม แล้วเหวี่ยงตุ้บลงข้าง ๆ โอ่งน้ําตรงตีนกระได “อีเล็กจะไปทําอะไรกับใครกูเลิกคิดเสียแล้ว…แต่อย่าตบหน้ากูด้วยเงิน มึงตีค่าลูกกูเหมือนกะหรี่”
แกเริ่มชี้นิ้วกราดมาที่พวกเราทุกคน “พวกมึงก็เหมือนกันอย่าให้กูเห็นอีก คราวหน้าถึงอาจเป็นผีเฝ้าป่ายาง ไปเสียให้พ้นๆ”
เราปั่นจักรยานออกจากที่นั่นอย่างเร็วจี๋เหมือนโดนผีฉุดขา น้ําหนักตัวของไอ้คลิ้งที่ซ้อนท้ายจักรยานผมกลับเบาโหวงอย่างปาฏิหาริย์…
“เฮ้ย…ไอ้ท่อก” ไอ้ชินโพล่งออกมากลางทางเหมือนจะฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้ “มึงเก็บเงินจากพวกเราเพียงคนละห้าบาท แต่เงินที่ตาสุกเอามาขว้างใส่ถึงมันใบแดง ๆ นี่หว่า” …
“เออ…จริง” ไอ้เก็บฉุกคิดขึ้นมาได้อีกคน “กูก็เห็นใบแดง ๆ ด้วย”
“มันใบแดงจริง ๆ อย่างที่พวกมึงเห็น…เพราะนั่นไม่ใช่เงินของพวกมึง” ไอ้ท่อกพูดยิ้ม ๆ “คนอย่างพี่เล็กไม่เคยเรียกร้องอะไรจากใครเป็นค่าตอบแทน มันเป็นความเต็มใจของเธอเอง เงินของพวกมึงกูเอาเข้ากระเป๋ากูเองทั้งหมด”
“แล้วไอ้ใบแดงนั้นมาจากไหน…กูชักงงชิบหาย” ไอ้ชินพูดฉุน ๆ