Recommend

Recent Posts

Nylon Guys 1 : มาริโอ้ เมาเร่อ

NYLONGuys Thailand 1 : มาริโอ้ เมาเร่อ SUPER MARIO มาริโอ้ เมาเร่อ ดังยกกำลังสอง AMERICAN BOY Model Mario Maurer (มาริโอ้ เมาเร่อ) ภาพ J.SURAT

IMAGE February 2014

IMAGE Magazine vol.27 no.2 February 2014 METAPHORIC Model ญาดา วิลลาเรจ, พิติ ชินสำราญ & ณัฐกฤต เกษตรภิบาล Stylist Benyada Pruedihinalin Photographer Punsiri

จากน้ํามันถึงปลาทู

จากน้ํามันถึงปลาทู

ยุติพงษ์ ตั้ง

เมื่อพูดถึงการค้าระดับประเทศรอบ ๆ มหาสมุทรแปซิฟิกใต้ หรือนัยหนึ่งการตั้งตัวเป็นนายหน้าให้สินค้าผ่านมือไปสู่ประเทศคู่ขา ใครไม่รู้จักสิงคโปร์ก็บ้าแล้ว เมื่อสวัสดีกับเมืองโชนันในอดีตแล้ว ก็น่าจะเลยไปสัมผัสมือกับโก๊ะจกตง ทายาทมือระดับพระกาฬของลีกวนยิวไว้หน่อยก็จะดี อย่างน้อยก็ในฐานะของผู้สืบสายเลือดคนแรกที่ได้รับการถ่ายทอดวิทยายุทธ์ในสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์อย่างครบถ้วนทุกกระบวนท่า คนสิงคโปร์ยกย่องและให้การยอมรับนับถือลีมาก ในฐานะที่เป็นผู้สร้างความเกรียงไกรใหญ่ยิ่งให้เกาะเล็ก ๆ ของสิงคโปร์เป็นยักษ์ใหญ่ในทางการค้าของภาคพื้นตะวันออกเฉียงใต้ หลังสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง เขากลายเป็นปูชนียบุคคลที่ได้รับการเชิดชูบูชาอย่างสนิทใจ

แล้วก็มาถึงคําถามที่ว่าทําไมประเทศสิงคโปร์ซึ่งเป็นเพียงเกาะเล็ก ๆ ไม่มีทั้งทรัพยากรธรรมชาติหรือพื้นที่สําหรับเกษตรกรรม แม้แต่ข้าวทุกเม็ดก็ยังต้องอิมปอร์ตไปจากต่างประเทศ จึงได้ประสบความ สําเร็จระเบิดเปิดเปิงขนาดนั้น

คําตอบก็คือฝีมือครับ คนเราลงเก่งเสียอย่าง อยู่ที่ไหนไม่สําคัญ ก็ดูอย่างปลายปีที่แล้วนั่นไง ผู้นําทางเศรษฐกิจรวม ๑๕ ชาติในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกชวนกันไปนั่งคุยที่กรุงแคนเบอรรา ในออสเตรเลีย เพื่อแสวงหาลู่ทางในการส่งเสริมการค้าเสรีและความร่วมมือทางเศรษฐกิจซึ่งนอกจากจะมีไทยแลนด์เข้าไปร่วมสังขกรรมด้วยแล้ว สิงคโปร์ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มชาติสมาชิกเหล่านี้ด้วย นั่นคือบทบาทแรกอันเป็นที่มาของสมาชิกกลุ่มเอเปก ซึ่งลําดับต่อมาก็ยกพยุหยาตรามาเปิดรายการสัมมนาฮาเฮขึ้นที่แบ็งค็อกตามคําเชิญชวนแกมออดอ้อนของใครก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าลึก ๆ ลงไปในการรับเป็นผู้เลี้ยงดูปูเสื่อไทยเรานั้นคงตั้งความหวังไว้ว่าจะมีส่วนโน้มน้าวให้กลุ่มเอเปกมาเปิดสํานักงานถาวรในแบ็งค็อก พูดไปพูดมาอีท่าไหนไม่รู้ ที่ประชุมระดับรัฐมนตรีทั้ง ๑๔ ชาติลงมติโยนลูกข้ามฟากให้สํานักงานถาวรของเอเปกเหินฟ้าอันดามันไปตั้งที่เมืองสิงคโปร์โน่น

เหตุผลก็คือ เพื่อความสะดวกในการเดินทางและประโยคสุดท้ายอีหันมาคารวะเจ้าภาพก่อนบอก

“ประเทศยูมีปัญหาเรื่องการจราจรมาก ไม่อยากให้ปัญหาสุขภาพทางจิตติดตามมาในภายหลัง”

นี่ไม่ใช่ความเห็นของสิงคโปร์ แต่เป็นความเห็นร่วมกันของสมาชิกกลุ่มเอเปกเกือบทั้งหมด ซึ่งแต่ละประเทศล้วนแต่อุดมสมบูรณ์ ไปด้วยศักยภาพที่สูงส่งทางเศรษฐกิจถึง ๔๐ เปอร์เซ็นต์ของผลผลิตทั้งโลกรวมกัน ส่วนไทยแลนด์ของเรานั้น กลายเป็นหมูสนามจริงสิงห์สนามซ้อมเรียบร้อยโรงเรียนลอดช่องไปแล้ว เสียทั้งห้องพักค่าเหล้าค่าข้าวรวมอีหนู แถมถูกเขี่ยตกรอบอีกต่างหาก

สิงคโปร์นั้น สามารถจะติดต่อค้าขายกับทุกชาติทุกภาษาทุกลัทธินิยม ไม่ว่าซื้อเข้าหรือขายออก ดูมันคล่องไปเสียทุกกระบวนท่า หวังแต่กําไรเข้าประเทศแต่เพียงอย่างเดียว

ไอ้ที่ค่อนข้างจะฮือฮาในเวลานี้ก็คือการค้าน้ํามัน ที่คนในประเทศเรารู้จักมันในฐานะน้ํามันเถื่อนนั่นไง เริ่มตั้งแต่ลิตรละ ๕ บาท เป็นต้นมา จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ปาเข้าไป ๘ บาทกว่าแต่ลูกตั้งเกขายปลีกให้พวกพ้องลิตรละ ๖ บาทเท่านั้น ก็กําไรเหลือเฟือ

“ระหว่างที่ยังมีปัญหากับรัฐบาลเรื่องลดหย่อนภาษีน้ํามันเมื่อกลางปีที่แล้ว” ไต้ก๋งเรือประมงเอ่ยถึงความหลัง “เราเคยทําหนังสือร้องขอไปทางรัฐบาลขอลดหย่อนภาษีเฉพาะชาวประมง เรื่องล่อต๋งผมลิตรละ ๒.๔๐ บาท ขอลดแค่ลิตรละ ๔๐ สตางค์อีก็ทําเฉย ต่อมาขอให้กรมประมงสร้างเรือน้ํามันลอยกลางทะเลเพื่อความสะดวกในการเติมน้ํามัน ขอร่นจาก ๑๒ ไมล์ทะเลมาเป็นระยะ ๓ ไมล์ แถมบันทึกต่อท้ายคําร้องขอด้วยข้อมูลที่สามารถพิสูจน์ได้อีกว่า เรือประมงไทยนั้น ใช้น้ํามันในการปฏิบัติการรวมแล้ว ๑,๔๐๐ ล้านลิตรต่อปี ถือว่าเป็นเกษตรกรรมที่ใช้น้ํามันมากที่สุดในประเทศ เมื่ออีไม่ยินดียินร้ายกับความเดือดร้อนของประมง เราก็จําเป็นต้องบ่ายหัวเรือไปพึ่งน้ํามันจากสิงคโปร์ ทางโน้นเขาคิดแค่ลิตรละไม่ถึง ๖ บาทด้วยซ้ําไป บางครั้งมีบริการมาเติมกลางทะเลให้ด้วย การค้าที่ซื้อง่ายขายคล่องแบบนี้ยังมีน้อย น่าจะมีการส่งเสริมให้ตลาดหรือส่วนแบ่งตลาดขยายออกไปให้มาก ๆ ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมหรือเกษตรกรรมทุกสาขาจะ ได้ประหยัดการลงทุนลงไปอีกมาก ขนาดลิตรละ ๖ บาทที่ตกถึงมือผู้บริโภคสุดปลายทางของมันแล้ว ถือว่าเป็นมือที่สาม แล้วน้ํามันสุกจากปากบ่อลิตรละเท่าไหร่ คงพอคํานวณกันได้ แต่พอนําเข้ามาขายในประเทศ ดันทะลึ่งพรวดไปถึงลิตรละ ๘-๙ บาท ถึงได้อยากจะบอกไว้ตรงนี้ว่า ในย่านเอเชียแปซิฟิกนั้น ต้องยกให้สิงคโปร์มันเป็นหนึ่ง แหละพี่

ฝ่ายผู้รักษากฎหมายในประเทศก็ระดมกําลังกันกวาดล้างแท้งค์น้ํามันเถื่อน กะจะให้สูญพันธุ์ไปเลยว่างั้นเถอะ แต่อย่างเก่งก็แค่จับได้เพียงน้ํามันปาล์มแปะประจําวันไว้เสนอความดีความชอบตอนปลายปี น้ํามันดีเซลหรือเบนซินเถื่อนสําหรับชาวประมงแล้วค่อนข้างยากไม่ว่าหน่วยจากทหารตํารวจและศุลกากร พวกนี้ไม่โง่พอจะมาซื้อขายกันในอ่าวอันดามัน เขาซื้อขายกันในน่านน้ําของต่างประเทศโน่น ขืนทะเล่อทะล่าเข้าไปจับรับรองเกิดเรื่องแน่

สิ่งที่น่าจะบอกกล่าวกันให้รู้ไว้อีกอย่างก็คือ ชาวประมงไทย นั้นไม่ได้ต่อเรือไว้สําหรับจับปลาในทะเลไทยหรอกพี่ เพราะมันไม่มีปลาแล้ว ไอ้ที่มีวางขายตามแผงในตลาดสดทั่วประเทศทุกวันนี้ ขอให้รับทราบกันไว้ด้วยก็แล้วกันว่าเป็นปลาจากนอกอาณาเขตทั้งนั้น ประมงส่วนน้อยหรอกที่ขอมีส่วนร่วมในการติดต่อจับปลาในประเทศเพื่อนบ้านอย่างถูกกฎหมาย ส่วนใหญ่แล้วจะขโมยจับกันทั้งนั้น เมื่อเข้าไปขโมยของในเขตบ้านเขาพลาดท่าหนีไม่ทันก็ถูกเจ้าบ้านจับบ้างเป็นธรรมดา คดีรุกล้ําน่านน้ําทั้งเวียดนามและบังคลาเทศและประเทศเพื่อนบ้าน จึงมีข่าวว่าพี่ไทยตกเป็นจําเลยอยู่เรื่อย ๆ มีคนสงสัยว่าเมื่อประเทศเหล่านี้มีทรัพยากรทางทะเลแน่นหนาขนาดนั้น ทําไมไม่ทําประมงเสียเอง เขาก็ทําครับ แต่เครื่องมือและอุปกรณ์การจับปลาทางด้านเทคโนโลยีนั้นสู้พี่ไทยไม่ได้ มีครบทั้งเรดาร์ โซนา พอเปิดเครื่องทํางานเครื่องมันก็จะบอกรัศมีฝูงปลา ขนาด ความลึก อุปกรณ์บางอย่างสามารถจะแยกเพศให้เสร็จ ตัวผู้เท่าไหร่ตัวเมียเท่าไหร่ ลําหนึ่งก็ตก ๒๐ ล้าน แขกกะแกวมันมีปัญญาที่ไหน อันที่จริงถ้าจะทํามันก็คงทําได้ คิดไปคิดมาจับไอ้พวกขโมยปลาน่าจะสะดวกกว่า ปลาก็ได้ฟรีทั้งลําเรือ แถมเรียกค่าไถ่เรือไถ่คนได้อีกต่างหาก ลําละ ๕ ล้าน ๘ ล้านก็ว่ากันไปตามสภาพเรือ วันดีคืนดี มันก็เอาเรือที่จับได้พร้อมลูกเรือชุดเดิมบังคับให้ออกจับปลามาขายฟรี ๆ ให้มัน ก็ดีไปอีกแบบ

นี่คือประสบการณ์อันยาวนานที่ผ่านมาในชีวิต ไม่ว่าเรื่องน้ํามัน เถื่อนหรือการลักลอบจับปลาในน่านน้ําของประเทศอื่น ทางออกสายกลางนั้นก็พอจะมองเห็นอยู่หรอก เพราะปัญหาทุกอย่างย่อมมีทางแก้ไข เพียงแต่มันยังมีความชัดเจนไม่พอ ก็ปล่อยให้เหตุการณ์มันเดินทางรุดหน้าต่อไปเรื่อย ๆ ทั้งธุรกิจค้าน้ํามันเถื่อนและการลักลอบขโมยปลา รวมความแล้วคนที่เจริญด้วยผลกําไรไม่มีใครเกินสิงคโปร์ ฝีมือการค้าพี่ลีกวนยิวได้วางรากฐานเอาไว้ให้ลูกหลานเฉียบขาดไม่มีใครทาบจริง ๆ

สมาคมเกี่ยวกับผลประโยชน์ทางการประมงของนายโต๊ะ สามารถที่จะเสกเป่าปลาที่ไม่มีราคาให้กลายเป็นของขึ้นโต๊ะตามภัตตาคารหรูหรามาแล้ว ตลาดใหญ่อยู่ในประเทศไทยเรานี่เอง ปลาด้อยคุณค่าเหล่านี้ ในอ่าวไทยมีน้อยมากจนไม่ค่อยมีใครรู้จัก ปลาทูกลม คุ้นเคยก็แต่ปลาทูธรรมดาทั่วไป ประมงลําไหนจับได้ก็เอาเข้าโรงงานปลากระป๋อง ตัวเล็กหน่อยก็ส่งลงสายพานปลาป่นไปเลย จนป่านนี้ก็ยังไม่มีใครสามารถจะบอกได้ว่า ทําไมปลาทูกลมจึงไม่ชอบสิงสู่อยู่ในอ่าวไทย ปลาทูกลมชนิดนี้ทั่วโลกรู้จักกันในชื่อปลา “แมคคาเรน เนื้อไม่อร่อย จึงไม่ค่อยมีราคา เมื่อถูกจับได้ ไม่ส่งโรงงานก็นํามาเกี่ยวเบ็ดราวเป็นเหยื่อจับปลาทูน่าเสียเป็นส่วนใหญ่ นักบริโภคชาวไทยนั้น ก่อนนี้ไม่ค่อยคุ้นหูกับชื่อนี้นัก ฝ่ายสํารวจตลาดปลาสดของสิงคโปร์เข้ามาหาข้อมูลในตลาดไทยพักเดียว ก็กลับไปสั่งซื้อปลาทูกลมจากประเทศใกล้เคียง แล้วส่งเข้ามาขายในตลาดเมืองไทยจํานวนน้อย แต่ตั้งราคาแพงลิบลิ่ว ประกอบกับคนปรุงมีฝีมือไม่ช้าไม่นานตลาดปลาทูกลมก็ขยายออกไปเรื่อย ๆ จากสถานบริการมีระดับ กระจายไปสู่แผงค้าย่อยตามตลาดสด สามารถแม้กระทั่งหยุดราคาตลาดไว้สําหรับคนชั้นกลางเท่านั้น ที่เฉียบขาดยิ่งกว่านั้นก็คือเปลี่ยนชื่อเรียกจากปลา “แมคคาเรน” ที่ไม่มีราคาเสียใหม่ ม่ายงั้นก็เบิกเนตรคนรวยไม่ได้ ถ้าท่านผู้อ่านคนใดอยากรู้ว่าปลาทูกลมหรือที่ชื่อเดิมได้ “แมคคาเรน” รูปร่างหน้าตาเป็นไง ไม่ยากครับ ถือเงินซัก ๕๐ บาท เดินเข้าตลาดสดที่คิดว่าใกล้บ้านที่สุด ตรงไปที่แผงขายปลาหรือถ้าจะให้สะดวกในการวางฟอร์มตามแผนกอาหารทะเลของห้างสรรพสินค้าไหนก็ได้บอกซื้อ ปลาซาบะ กิโลนึง ชื่อฟังดูออกไปทางยี่ป่งญี่ปุ่นไปโน่น นี่คือผลงานทางความคิดในด้านการค้าทรัพยากรทางทะเลของลูกน้องเฮียโก๊ะจกตงทั้งนั้น อีมองเห็นว่าไทยน่ะมีจุดอ่อนตรงรสนิยม บ้าของใหม่อยู่แล้ว ประเภทไม้โทไม่เกี่ยว อร่อยลูกเดียว

ปีหน้าฟ้าใหม่นี่ไม่รู้ว่ามันจะคิดหาของใหม่อะไรมาหลอกอีก

ไหน ๆ ก็เสียรู้หลงอ่านเรื่องราวทั้งน้ํามันเถื่อนและปลาราคาถูกที่ลูกน้องเฮียโก๊ะแกวางแผนหลอกอัฐนักบริโภคมีระดับมาจนพอจะเกิดความฉลาดในการกินปลาขึ้นมาบ้าง เพื่อไม่ให้เสียเวลาเปล่า ขอเชิญลงเรือจับปลาไปรู้จักกับคุณโลมาเสียหน่อย รู้สึกว่าชื่อของแกจะเป็นที่รู้จักกับท่านผู้อ่านดีพอสมควร ถึงจะไม่ใช่ตัวที่เป็นดาราเอกใน หนังเรื่อง “โลมาเพื่อนแก้ว” แต่มันก็ตระกูลเดียวกันน่ะแหละ เคยนั่งดูปลาโลมาไล่กินปลากุเลาขนาดกระโดดไล่งับกินกลางอากาศ ผิดมั่งถูกมั่ง รวมทั้งนิทานเรื่องโลมาช่วยคนเรือแตกให้รอดตาย รวมทั้งโลมาจมเรือประมงที่บังอาจขโมยลูกของมันไปหลายต่อหลายเรื่อง จนกระทั่งกลายเป็นส่วนผูกพันกันไปโดยไม่รู้ตัว เมื่อมายึดอาชีพการทําประมง ออกทะเลรอนแรมไปเป็นอาทิตย์ก็ได้ไอ้โลมาเพื่อนแก้วนี่แหละเป็นเพื่อนยามเหงา ทั้งว่ายเวียนคลอเคลียไม่ห่างเรือเลย แถมวันไหนอารมณ์ดีมีรายการผสมพันธุ์โชว์ให้ดูกลางวันแสก ๆ ลูกเรือทั้งหลายก็เฮโลกันไปมุงดูตาแทบตาถลน ทั้งลีลาท่าประกบแปลก ๆ ยิ่งคนดูส่งเสียงเชียร์ รู้สึกว่ามันจะพอใจมาก ก็ได้ปลาขี้เล่นประเภทนี้พอช่วยให้คลายความเครียดไปในพักหนึ่ง

เมื่อพูดถึงโลมาก็ต้องนําเอาอวนลอยเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเพราะมันเป็นของคู่กันเหมือนผีตายโหงคู่กับโลงไม้ยางอะไรทํานองนั้น

อวนลอยเป็นเครื่องมือประมงจับปลาผิวน้ําที่มีประสิทธิภาพในการจับปลาค่อนข้างสูง มีต้นทุนในการทําประมงต่ํา เป็นเครื่องมือประมงที่ไม่ทําลายสภาพแวดล้อมใต้ทะเล และไม่ทําลายพันธุ์สัตว์น้ําเพราะอวนลอยจะจับแต่ปลาที่โตได้ขนาดแล้วเท่านั้น ลักษณะของอวนลอยเป็นตาข่ายสี่เหลี่ยมยาว ๆ ปล่อยไว้ในทะเล ให้ไหลลอยไปตามกระแสน้ํา เมื่อปลาวิ่งมาชนก็จะติดตาข่ายอยู่ที่อวน วัสดุที่ใช้ทําอวนลอยสําหรับใช้จับปลาทูน่านั้น ในต่างประเทศใช้พลาสติก แต่การประมงของไทยใช้ใยไนล่อนกัน (สมัยก่อนใช้ป่านที่ต้องให้ทาไข่ไก่กับน้ํามันตั๊งอิ้วทุก ๑๕ วัน) อวนลอยที่ทําจากพลาสติกนั้นจับปลาได้ดีกว่าอวนไนล่อน แต่อวนไนล่อนมีความคงทนและซ่อมแซมได้ ง่ายกว่าอวนพลาสติก (อวนเอ็น)

การทําประมงอวนลอยเพื่อจับปลาทูน่าในต่างประเทศจะใช้เรือประมงขนาดใหญ่ เรือประมงลําหนึ่ง ๆ จะใช้อวนมีความยาวประมาณ ๕๐ กม. อวนจะลอยอยู่ในระดับผิวน้ําลึกลงไปห้าวา สัตว์น้ําอะไรก็แล้วแต่ที่อยู่ในระดับน้ําลึกไม่เกินห้าวา ก็เป็นอันเสร็จอวนลอยนี้ทั้งนั้น ไม่ว่าเต่า ปลาโลมา หรือ ปลาวาฬก็ตาม

ในระดับน้ําลึก ๆ นอกไหล่ทวีป น้ําทะเลจะใสแจ๋วอยู่เสมอ อวนพลาสติกจึงเป็นเพียงอวนชนิดเดียวที่สามารถจะจับปลาในย่านนี้ได้ แต่อันตรายครับ ปลาวาฬ ปลาโลมา มีหวังตายกันยกฝูง

ในเขตน้ําลึกนั้น ปลาทูน่าส่วนใหญ่จะมีแต่พันธุ์ที่ตัวโต ถึงไม่ทําประมงอวนลอยก็สามารถจับปลาทูน่ามาเลี้ยงชาวโลกได้ด้วยเครื่องมือเบ็ดราว

ในเขตไหล่ทวีปนั้นเป็นแหล่งเหมาะสมที่จะทําประมงอวนลอยที่ทําจากไนล่อน เพราะถึงแม้อวนลอยในล่อนจะมีส่วนในการฆ่าปลาวาฬ ปลาโลมา แต่ปลาวาฬ ปลาโลมาจะไม่มีวันสูญพันธุ์เพราะอวนลอยไนล่อนเด็ดขาด ไม่ว่าจะมีอวนลอยในล่อนมากมายสักเท่าใด ยิ่งมีอวนลอยไนล่อนมาก ๆ ซิครับ คุณโลมาแกจะยิ่งชอบอกชอบใจ ขนสมัครพรรคพวกมาร่วมวงไพบูลย์ผลิตลูกกันให้บานเบิกสบายใจแกไปเท่านั้นเอง อวนลอยไนล่อนของไทยจะจมอยู่ใต้น้ําลึกหกศอกลงไปถึงห้าวา ผิดกับอวนลอยของเมืองนอกที่ลอยอยู่ตั้งแต่ระดับผิวน้ําลงไป
อวนไนล่อนมีขีดการจับปลาจํากัดอยู่แต่ในคืนเดือนมืด และน้ําไม่แดงเป็นพรายน้ําเท่านั้น เพราะหากท้องฟ้าสว่าง ด้วยแสงจันทร์หรือน้ําแดง ปลาก็จะเห็นอวน แล้วก็จะไม่ติดอวน เรือประมงไทยลําหนึ่ง ๆ จะใช้อวนยาว ๑๕-๒๐ กม. การจับปลาทูน่าในเขตไหล่ทวีป ด้วยอวนลอยไนล่อนมีความเหมาะสม เป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นการจับปลาแบบเอาได้เรื่อย ๆ เฉพาะตัวที่โตได้ขนาด ไม่ได้จับทีเดียวยกฝูง ปลาจึงมีโอกาสได้ขยายพันธุ์ให้จับได้ตลอดไป ส่วนเสียมีอยู่นิดเดียวเองคือ เป็นเศรษฐีร้อยล้านช้าไปหน่อย สู้ทําประมงที่จับปลาแบบจับยกฝูงไม่ได้ รวยเร็วกว่ากันเยอะเลย รวยกันจนปลาเกือบหมดทะเลโดยไม่รู้ตัว

อวนลอยไนล่อนของไทยนั้น ไม่ทําลายพันธุ์ปลาวาฬ กับปลาโลมา

ที่ว่าชาวประมงกลัวปลาวาฬนั้น กลัวอยู่สองประการ คือ กลัวปลาวาฬมาอย่างหนึ่ง กับกลัวปลาวาฬติดอวนลอยอีกอย่างหนึ่ง ปลาวาฬเป็นปลาใหญ่ ซึ่งต้องกินปลาเล็กเป็นธรรมดา ปลาวาฬไปที่ไหนปลาเล็ก ๆ ก็หนีกันกระเจิง

ปลาวาฬน่ะลงว่าติดอวนแล้วก็ไม่ต้องกินข้าวปลากันล่ะ ด้วยความที่ตัวใหญ่กว่าจะทําให้หลุดจากอวนได้ ลูกเรือก็เกือบเป็นลมตายด้วยความหิวข้าวไปตาม ๆ กัน แล้วยังแถมต้องซ่อมอวนที่ขาดเพราะฤทธิ์ปลาอีกหลายวันกว่าจะเสร็จ จากการกลัวปลาวาฬเข้ามาติดอวนของชาวประมง ทําให้การตายของปลาวาฬเพราะอวนลอยในล่อนของไทยมีน้อยมาก ในจํานวนเรือประมงสิบลําในเวลาห้าปีที่ทําประมงอยู่ในเขตที่มีปลาวาฬในน่านน้ําต่างประเทศ มีปลาวาฬติดอวนลอยไนล่อน ตายเพียงตัวเดียว

โลมาเป็นปลาฉลาดและมักอยู่กันเป็นฝูง ในพื้นที่ที่ไม่เคยมีอวนลอยมาก่อน ในยามที่ทะเลมีคลื่น ปลาโลมาจะติดอวนตายครั้งละ ๒-๕ ตัวเสมอ แต่หลังจากนั้นจะไม่ค่อยมีมาติดอวนตายอีก โลมาจะเรียนรู้และสามารถจะมองเห็นอวนไนล่อนได้แม้ในคืนเดือนมืดสนิท และหลังจากนั้นโลมาก็จะทํามาหากินกับอวนลอย ชนิดที่มีอวนลอยที่ไหนก็จะตามไปที่นั่นกันทีเดียว คุณพี่โลมาแกก็ไม่ทําอะไรหรอก แค่เอาปลาที่ติดอวนกินแค่นั้นแหละ การกินของพี่โลมาแกก็กินตัวเหลือหัวไว้ ถ้ากินหัวก็เหลือตัวไว้ เรียกว่าแกมาขอแบ่งจากชาวประมงไปกินแค่พออิ่ม ชาวประมงก็ไม่ว่าอะไร ถือว่าแบ่งกันกิน แต่ทุกครั้งที่เห็นปลาโลมาก็ต้องปรามกันมั่ง ด้วยการตะโกนลงไปบอกว่า กินแต่พอดี ๆ นะโว้ยพรรคพวก แล้วก็ต่อท้ายด้วยคําด่า ทุกทีไป เพราะเคยมีปรากฏมาแล้วว่าโลมาที่ไม่ได้รับการปรามด้วยคําขอร้องพี่แกเล่นเสียพุงกางขนาดปลาติดอวน ๑๐๐ ตัว คุณพี่ล่อเสีย ๘๕ ตัวเลยทีเดียว เล่นเอาชาวประมงเกือบต้องขายเรือมาหลายรายแล้ว

เมื่อปี ๒๕๑๕ ปลาโลมาขนาดใหญ่ตัวหนึ่งไม่รู้ว่าพลัดหลงอย่างไร ดันเข้าไปตายในก้นถุงอวนลาก ซึ่งกําลังทําประมงอยู่นอกชายฝั่งเมือง กัลกัตต้า ของอินเดีย นอกจากผู้เขียนแล้ว ทุกคนในเรือต่างดีใจกันใหญ่ที่จะได้กินเครื่องในปลาโลมา มื้อเย็นวันนั้น ทุกคนต่างเอร็ดอร่อย ด้วยเครื่องในปลาโลมาต้ม มีแต่เพียงผู้เขียนคนเดียวที่ต้องทนกินกุ้งต้ม ตัวขนาดหัวแม่โป้งด้วยอาการฝืดคอ เพราะอาหารหลักในแต่ละวันนั้น หนีไม่พ้นกุ้งกับปลา (สงสัยว่าอาการตกใจบ่อย ๆ ในช่วงหลังนี้ อาจจะเกิดเพราะพิษของกุ้งก็ไม่แน่ ขี้เกือบขึ้นไปอยู่บนหัวทุกที เมื่อไปตลาดแล้วดันไปถามราคากุ้งที่กินเข้าไปทุกวัน ๆ)

หลังจากกินกันอิ่มหนําแล้วสักพักใหญ่ ๆ ทั้ง ๓๑ คน ตั้งแต่ไต้ก๋ง ช่างเครื่อง นายท้าย ลูกเรือ ยันเด็กกลาสี ต่างก็เกิดอาการ น้ําลายฟูมปาก แน่นหน้าอก เรือต้องหยุดทําประมง แล้วก็สลบไปตาม ๆ กัน ทั้งคืนกับอีกค่อนวัน หลังจากพักฟื้นอีกสองวันเรือก็ทําประมงได้ตามปกติ แล้วทั้ง ๓๑ คนก็ลอกคราบโดยหนังหลุดลอกออกมาเป็นแผ่น ๆ มากบ้างน้อยบ้าง คนที่หนักกว่าเพื่อนหนังลอกอยู่ถึงสองเดือนจึงหายเป็นปกติ คงเกิดจากสารพิษอะไรบางอย่างเข้าไปอยู่ในตัวปลาโลมาตัวนั้น ผู้เขียนไม่ได้โดนพิษนั่นแต่ก็มีอาการปางตายเหมือนกัน ก็การพยาบาล การหยอดน้ําข้าวต้มให้คนตั้ง ๓๑ คนน่ะ ทําเอาสุขภาพโทรมไปหลายวันเหมือนกัน โดยเฉพาะไอ้สามคนหลังที่นอนขี้แตกให้ผู้เขียนไปทําความสะอาดให้ ถ้าไม่ใช่เพราะพี่สาวน้องสาวมันสวย สาบานได้จะไม่เดินเฉียดไปใกล้ ๆ เลย จริง ๆ

จากน้ํามันถึงปลาทู - ยุติพงษ์ ตั้ง

หนังสือต่วย'ตูน เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๓๘ ปีีที่ ๒๔ เล่มที่ ๑๒

Share:

Facebook
Twitter
Pinterest
LinkedIn

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Photobook

Highlight

Random

ไอ้ท่อก

ไอ้ท่อก คมเพชร หนวดเค็ม นักเรียนมอหกรุ่นผมทุกคนมีฉายา บ้างก็น่าชัง บ้างก็น่ารัก

On Key

Related Posts

หมาเจ้าเมือง

หมาเจ้าเมือง ร.ต.พิมล สุวรรณสุภา อันว่าบุญวาสนาของสัตว์โลก ทั้งผองจะเจริญขึ้นหรือเสื่อมลงนั้น ย่อมเป็นไปตามกฎแห่งกรรมของตนเองทั้งสิ้น ก่อกรรมใดที่ไม่ถูก กาลเทศะ, โลภโมโทสัน หรือเหิมเกริมจนลืมตนก็จะเป็นเหตุปัจจัยฉุดรั้งให้ต่ำลง แทนที่จะช่วยดึงให้สูงขึ้น สัจธรรมข้อนี้ผมได้มาจากชีวิตของ

รบกับเจ็ก

รบกับเจ็ก ประสงค์ บานชื่น ทางสื่อมวลชน เช่นวิทยุ โทรทัศน์ (เอ๊ย, ยังไม่มี) และหนังสือพิมพ์ ว่า “เชื่อผู้นําชาติพ้นภัย” “มาลานําไทยสู่มหาอํานาจ”

มวยแขก

ชุดแขกอมยิ้ม มวยแขก ชัยชนะ โพธิวาระ คุยกับแขกไม่ว่าเรื่องใดก็ตามอาบังแกต้องมีเรื่องมาเกทับคู่สนทนาอยู่เสมอ เช่นคุยถึงเรื่องรถแขกเขาต้องบอกว่ารถที่ผลิตในอินเดียแข็งแกร่งที่สุด รูปร่างที่สวยงาม แถมชื่อยังไพเราะซะด้วยคือยี่ห่อแอมบาสดอร์ ยิ่งมอเตอร์ไซค์ยิ่งชื่อเพราะใหญ่คือยี่ห้อ YEZDEE ถ้าคุยถึงเรื่องพระเจ้าบังแกก็จะคุยจนน้ําลายฟูมปากอีกนะแหละว่าอินเดียเป็นดินแดนของพระเจ้าและมีพระเจ้าอยู่ที่นี่มากที่สุด เรียกว่าคุยเรื่องไหนมาแขกเป็นคุยทับไปได้อย่างสบาย

“โอฬาร” – หนังสือหัวเตียง

หนังสือหัวเตียง “โอฬาร” เมื่อเดือนก่อนมีนักเขียนชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งแวะมาหาผมที่สํานักงาน “สตูดิโอ เท็น” ถนนอรรถการประสิทธิ์ ตอนนั้นสิบโมงเช้าแล้ว ผมกําลังนั่งดูเพื่อนฝูงเขาตัดต่อภาพยนตร์สารคดีท่องเที่ยว ชุด “ชีพจรลงเท้า” อยู่ นักเขียนชาวฝรั่งเศสผู้นั้นยังหนุ่มอยู่

คนเจริญลง?

คนเจริญลง? ประเทือง ใบมาก อันความเจริญมันต้องสูงขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าลดลงก็ต้องว่าความเสื่อม คําว่าเจริญลงไม่มีหรอก แต่พูดให้แปลกหูเสียงั้นแหละ เพื่อเรียกร้องความสนใจไงล่ะ เมื่อเกิดความสนใจหรือสดุดใจ ความสงสัยย่อมตามมาว่า เอ

ยาหมอเยิ้ม

ยาหมอเยิ้ม บุญยู้ ภูพาน ป่าที่พวกเราไปตัดทางสายใหม่ผ่านนั้น ล้วนแต่ภูเขาสูงชันติดกันเป็นพืด อุดมสมบูรณ์ด้วยไม้สักต้นกําลังเหมาะ ที่จะผลิตเป็นไม้เถื่อนได้อย่างสบาย ทั้งสักทอง, สักขี้เป็ด เขียวชะอุ่มในหน้าฝนและโกร๋นใบในหน้าแล้ง เซอร์เวย์เป็นชุดแรกที่บุกป่าเข้าไปสํารวจแนวก่อสร้างตามแบบ หน่วยเคลียริ่งตามเข้าไปถางป่าออกก่อนที่แทรกเตอร์จะเข้าไปขุดตอ